การเคลมประกันรถยนต์ รู้ไว้ก่อน อุ่นใจกว่า

ทุกครั้งเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ แน่นอนว่าจะต้องมีความเสียหายเกิดขึ้นมาไม่มาก ก็น้อยอย่างแน่นอน และตามความเข้าใจของผู้ขับขี่ทุกคนนั่นก็คือ ต้องรับโทรแจ้งกับบริษัทประกันภัย ที่ได้ทำสัญญาการดูแลเอาไว้ในทันที เพื่อที่จะได้ให้พนันงานของบริษัทประกันภัยเข้ามาทำหน้าที่ในการเจรจา ไกล่เกลี่ย ไปจนถึงการได้รับการดูแลในส่วนต่างๆ ตามที่ได้จดเอาไว้ในกรมธรรม์

ซึ่งการเคลมประกันรถยนต์ ที่จะให้ความสะดวก รวดเร็ว ที่ง่ายที่สุดนั้น เป็นสิ่งที่ผู้ทำประกันต้องการได้รับจากบริษัทประกันภัยมากที่สุด เพราะส่วนใหญ่มักจะต้องเกิดข้อโต้แย้ง ข้อถกเถียงกันเสมอ ก่อนที่พนักงานบริษัทประกันภัยจะมาถึง ซึ่งมันก็จะมีผลต่อการเจรจา และขั้นต่ออื่นๆ รวมไปถึงการเครมประกันรถยนต์โดยตรงอีกด้วย

การเคลมประกันรถยนต์ คืออะไร

การเคลมประกันรถยนต์ ก็คือ การนำเอารถที่เกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุต่างๆ หรือความเสียหายจากเหตุการณ์ต่างๆ เข้าซ่อม โดยสามารถนำเอาไปซ่อมภายใต้การบริการของศูนย์บริการของรถยี่ห้อนั้นๆ หรือจะเป็นอู่ที่มีมาตรฐาน ที่มีรายชื่ออยู่ภายในเครือข่ายของบริษัทเคลมประกันรถ โดยที่ทุกครั้งก่อนที่จะทำการเครมรถยนต์ ควรที่จะต้องมั่นใจก่อนนว่า อุบัติเหตุ และความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้น อยู่ภายใต้เงื่อนไขของความคุ้มค่าของกรมธรรม์ที่ทำเอาไว้หรือไม่ วิธีที่จะทำให้ได้คำตอบที่ดีที่สุด นั่นก็คือ การสอบถามจากตัวแทนขายประกันที่ทำเอาไว้โดยตรง เพราะการทำประกันรถยนต์ในแต่ละชั้น จะได้รับการดูแล และการคุ้มค่าที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขตามกรมธรรม์

ระยะเวลาในการพิจารณาเคลมประกัน

โดยปกติแล้ว บริษัทประกันภัยจะทำการพิจารณาจ่ายค่าเสียหายให้กับผู้ประสบภัยจากรถ หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความเสียหายต่างๆ และรวมไปถึงทายาทโดยชอบธรรมของผู้ประสบอุบัติแล้ว ที่จะอยู่ภายในระยะเวลาประมาณ 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับเอกสารเคลมประกันรถอย่างถูกต้อง และครบถ้วน โดยที่บริษัทจะทำการพิจารณาจ่ายเงินสินไหมทดแทนให้กับผู้ทำประกันภัย หรือผู้ได้รับผลประโยชน์ ตามกรรมธรรม์ โดยที่จะใช้ระยะเวลาในการดำเนินงานอยู่ที่ประมาณ 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับเอกสารการเคลมประกันอย่างถูกต้อง และครบถ้วน เช่นเดียวกัน

จะเห็นได้ว่าการเคลมประกันรถยนต์ จำเป็นที่จะต้องมีขั้นตอนต่างๆ ตามระบบ สิ่งที่จำเป็นมากที่สุดในการดำเนินการให้เสร็จสิ้น ก็คือการตั้งสติให้ดี แล้วจัดการเอกสารต่างๆ ตามขั้นตอนให้ครบถ้วน ตรวจสอบให้ละเอียด เตรียมเอกสารที่จำเป็นเผื่อเอาไว้ เพียงเท่านี้ก็จะสามารถเคลมประกันรถได้อย่างสะดวก ไม่ต้องรีบร้อน ขอแค่อยู่ภายในขั้นตอนก็พอ โดยที่คุณภาพของการบริการเคลมประกันรถยนต์ จะขึ้นอยู่กับบริษัทประกันภัยที่ใช้บริการ เพราะฉะนั้นก่อนทำกรมธรรม์ทุกครั้ง ควรศึกษาบริษัทประกันภัยให้ดีเสียก่อน